web2.0 มีอะไรน่าสนใจ

ปัจจุบันวิถีของชาวไซเบอร์เปลี่ยนไป มีการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อ เขียนบล็อก มีการแชร์รูป ร่วมเขียน Wiki มีการโพสต์ความเห็นลงในท้ายข่าว การหาแหล่งข้อมูลด้วย RSS เพื่อ Feed มาอ่านที่หน้าจอ และกูเกิ้ล พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นที่มาของเว็บ 2.0 ในweb2.0 มีเครื่องมือมากมายที่สามารถแต่งแต้มเว็บให้กลายเป็น Web 2.0 ที่สมบูรณ์ได้ ดังนี้

1.            Web application tools – เครื่องมือสนับสนุนการทำงานบนเว็บ

2.            Communication tools – เครื่องมือสำหรับติดต่อสื่อสาร

3.            Community tools – เครื่องมือส่งเสริมการเป็นชุมชนออนไลน์

4.            File sharing tools – File sharing tools

Web Application ประกอบด้วย

1.1 Blog หรือ Weblog

Blog มาจากศัพท์คำเต็มว่า Weblog บางท่านอ่านว่า We-Blog บางท่านอ่านว่า Web-Log อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน นั่นก็คือบล็อก (Blog)

Blog เป็นการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog จะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเฉพาะด้าน เช่น กีฬา การเมือง ท่องเที่ยว ธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง การเขียนบล็อกสามารถแตกแขนงไปในเนื้อหาแต่ละประเภท ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก อาจจะเขียนเป็นบทความเช่น GotoKnow Blog เป็นบล็อกที่ส่งเสริมการสร้างชุมชนความรู้โดยสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม

สรุปให้ง่ายๆ สั้นๆ  Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
1.2 Widget เป็นคำผสมของ Window+Gadget เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก สร้างจาก Flash หรือ Java script
สามารถกระจายตัวไปติดไปอยู่ได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา (ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บน Sidebar ของ เป็นต้น) บน browser บล็อก เว็บไซท์ต่างๆ แม้กระทั่งบนมือถือ ด้วยความสมัครใจของผู้ใช้เอง Widget ก็เหมือนเป็นการพัฒนารูปแบบหนึ่งของ RSS จากเดิมที่ RSS ทำได้แค่อัพเดตข้อมูลข่าวสารที่เป็นตัวอักษร

Widget ยังสามารถทำให้มีลูกเล่นเพิ่มขึ้น รวมถึงยังทำหน้าที่เป็นแอปพลิเคชั่นเสริมให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเว็บ ได้ด้วย ข้อดีของ Widget คือ สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์อื่นๆ เข้ามาเสริม และยังมีการอัพเดตข้อมูลตลอดเวลาเมื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
ตัวอย่าง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ใช้ Widget ในการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมกับธนาคาร

2 Communication tools

เครื่องมือที่ช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเพิ่มช่องทางและรูปแบบในการติดต่อสื่อสารให้หลากหลายขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและส่งข้อมูล ซึ่งมีเครื่องมือที่น่าสนใจ ดังนี้  Chat/Shoutbox, Instant Messenging, Skype, Podcast  Audiographics

2.1 Chat

"Chat" ในภาษาอังกฤษ แปลว่า สนทนาอย่างเป็นกันเองการ Chat ในแบบ Web Chat และ Web board มีการทำงานพื้นฐานแบบเดียวกันนั่นคือ เป็นการสนทนากันโดยผ่านเซิร์ฟเวอร์กลาง ไม่ได้ติดต่อกันเองระหว่างเครื่องคู่สนทนา กล่าวคือ เมื่อคุณพิมพ์ข้อความพูดคุยและส่งไป ข้อความนั้นจะถูกส่งไปเก็บยังเซิร์ฟเวอร์กลางและแสดงผลข้อความนั้นส่งกลับมาในภาพรวมทั้งหมด รวมถึงส่งต่อไปยังเครื่องอื่น ๆ ที่ออนไลน์อยู่กับเซิร์ฟเวอร์นั้นด้วย ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นข้อความต่าง ๆ ที่เก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งก็เรียกได้ว่าการ Chat แบบนี้เป็นการทำงานแบบโต้ตอบกับเครื่องที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ โดยใช้โปรแกรมบราวเซอร์เป็นตัวช่วยในการดึงและส่งข้อมูล

ความรวดเร็วในการโต้ตอบและแสดงผลจะขึ้นอยู่กับความเร็วในการติดต่อกันระหว่างเครื่องของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ จำนวนผู้ที่เข้าติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์กลางในขณะนั้น ๆ ก็มีผลต่อความเร็วในการโต้ตอบด้วยเช่นกัน

2.2 Instant Messaging

Instant Messaging (IM) คือ เป็นระบบการส่งข้อความแบบ peer to peer หมายถึงส่งระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องโดยอาศัยโปรแกรมที่ใช้ในการสื่อสารและส่งข้อความในระหว่างเพื่อนหรือกลุ่มคนที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับ E-mail โดยรูปแบบการส่งข้อมูลจะประกอบไปด้วยตัวหนังสือในการส่งแต่ละครั้ง แต่จะต่างกับ E-mail ตรงที่ ไม่ต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงหรือวันๆ เพื่อรอการตอบกลับจากเพื่อน เพราะข้อความที่ส่งไป จะส่งตรงไปหาเพื่อน “ทันที” เหมือนกับการพูดคุยปกติ
การทำงานของ IM จำเป็นต้องใช้ไคลเอนท์ซอฟต์แวร์ โดยซอฟต์แวร์ทำการเชื่อมต่อระบบที่บริการ IM การส่งข้อความผ่านเมสเซนเจอร์ในยุคแรก ตัวอักษรแต่ละตัวที่ทำการพิมพ์จะปรากฏทางหน้าจอของผู้ที่ส่งข้อความด้วยทันทีในขณะเดียวกัน การลบตัวอักษรแต่ละตัวจะลบข้อความทันที ซึ่งแตกต่างกับระบบ IM ในปัจจุบัน โดยข้อมูลที่ปรากฏจะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการตกลงยอมรับส่งข้อความแล้ว ในปัจจุบันเมสเซนเจอร์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ MSN Messenger AOL Instant Messenger Yahoo! Messenger Google Talk .NET Messenger Service Jabber และ ICQ
IM ยอดนิยม Windows Live Messenger หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า MSN Messenger

2.3 Skype  
Skype คือ โปรแกรม Instance Messenger ที่สามารถทำงานบนคอมพิวเตอร์ทั้งระบบปฏิบัติการ Window, Macintosh, Linux และ Window pocket PC เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารทั่วโลกผ่านทางเสียงที่มีคุณภาพ (Voice), ข้อความ (Chat), ข้อความด่วน (Instant Message), และใช้ส่งไฟล์แบบเรียลไทม์ (Real Time Send File) หรือแม้กระทั่งการติดต่อผ่าน VDO conference ทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

Skype ทำงานอยู่บนเทคโนโลยีระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer ซึ่งผู้ใช้งานจะมีการติดต่อโดยตรงระหว่างผู้ใช้งานกับผู้ใช้งานอื่นที่กำลังออนไลน์อยู่ ในขณะนั้น โดยไม่มีการผ่าน Server ของผู้ให้บริการ คุณภาพของการสื่อสารด้วยเสียงจึงไม่ถูกลดทอนลงไปด้วยเส้นทางของการสื่อสาร
Skype ต่างจาก MSN ตรงที่จะเน้นสื่อสารทางเสียงมากกว่าการพิมพ์  เสียงใสและไม่สะดุด จึงได้รับความนิยมมาก ยิ่งในมุมของการประหยัดค่าโทรศัพท์ทางไกลด้วยแล้ว Skype โดดเด่นมาก
ปัจจุบัน Skype ให้บริการในภาษาต่างๆราว 27 ภาษา ที่ได้รับความนิยมเร็วมากเพราะบริการเด่นทั้ง 2 รูปแบบ โดยแบบแรกคือ PC to PC ที่สามารถคุยได้ฟรี และ แบบที่ 2 คือ PC โทรเข้าโทรศัพท์พื้นฐานทั่วไป เรียกว่า skype out อย่างหลังนี้จะเสียค่าบริการแต่ก็ไม่มากนัก

2.4 Podcast

Podcast เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการนำเสนอไฟล์ Multimedia ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์(movie) หรือเสียง(audio) สู่ช่องทาง internet ผ่านเทคโนโลยี XML หรือ RSS/Feed เพื่อนำมาฟังหรือดูผ่านทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอย่างเช่น ipodหรือ MP3 player หรือ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ดังนั้นผู้ฟังสามารถ download ไฟล์ Multimedia มาเก็บไว้ในเครื่องเล่นที่สามารถเล่นไฟล์ Multimedia ของตนเองได้ และด้วย RSS/Feed ทำให้ผู้ฟังไม่พลาดการ Update Podcast ของ website นั้น ๆ ทุกครั้งเว็บนั้นๆ มีการ Update podcast episode ใหม่ๆ

3 Community tools

เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่ส่งเสริมให้เกิดสังคมออนไลน์บนโลกอินเทอร์เน็ตขึ้น เครื่องมือและเว็บไซต์เหล่านี้ทำให้คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันมีโอกาส มีพื้นที่ เพื่อใช้แลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลร่วมกัน ได้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันผ่านทางเครื่องมือต่างๆ ได้แก่ Webboard , Wiki , Social Networking , Second Life

3.1 เว็บบอร์ด (webboard)

เป็นลักษณะของเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนบทสนทนา การพูดคุย การอภิปรายในสังคมออนไลน์ นอกจากชื่อเว็บบอร์ดแล้ว ยังมีเรียกกันหลายชื่อไม่ว่า กระดานข่าว กระดานข่าวสาร กระดานสนทนา กระดานสนทนาออนไลน์ ฟอรัม เว็บฟอรัม เมสเซจบอร์ด บุลลิทินบอร์ด ดิสคัชชั่นบอร์ด ฯลฯ หรือเรียกอย่างสั้นว่า บอร์ดก็มี

เว็บบอร์ดซอฟต์แวร์ หรือ เว็บบอร์ดสำเร็จรูป เป็นซอฟต์แวร์ในลักษณะของระบบจัดการเนื้อหาเว็บ ที่สามารถนำมาสร้างเว็บบอร์ดได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างเว็บบอร์ดของตนเองหรือสร้างเว็บไซต์แต่อย่างใด โดยนอกจากนี้ซอฟต์แวร์บางตัวสามารถเปลี่ยนหน้าตาที่เรียกว่าธีมได้ รวมถึงเพิ่มความสามารถพิเศษให้เว็บบอร์ดเพิ่มขึ้น

ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันทีโดยผู้ใช้ ซึ่งซอฟต์แวร์บางส่วนเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ซึ่งผู้พัฒนาสามารถนำมาปรับแก้ เป็นของตนเอง ติดตั้งไว้ใช้เป็นเว็บบอร์ดส่วนตัว หรือเผยแพร่ให้คนอื่นมาใช้งานได้ ส่วนซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์นั้น จะมีทั้งในรูปแบบที่ให้ใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่ายหรือให้ใช้งานฟรี

เว็บบอร์ดซอฟต์แวร์ที่เป็นที่นิยมพร้อมทั้งชื่อซอฟต์แวร์ที่ใช้พัฒนาในวงเล็บ

·         phpBB (PHP/mySQL)

·         vBulletin (PHP/mySQL)

·         Invision Power Board (IPB) (PHP/mySQL)

·         Simple Machines Forum (SMF) (PHP/mySQL)YaBB (Perl/flatfile

3.2 วิกิ (Wiki)

เป็นลักษณะของเว็บไซต์อีกแบบหนึ่งที่อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มและแก้ไขเนื้อหาได้โดยง่าย ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนเพื่อแก้ไข ด้วยความง่ายในการแก้ไขและโต้ตอบ วิกิเว็บไซต์มักจะถูกนำมาใช้ในการร่วมเขียนบทความ คำว่า "วิกิ" นี่ยังสามารถหมายถึงวิกิซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นตัวซอฟต์แวร์รองรับการทำงานระบบนี้ หรือยังสามารถหมายถึงตัวเว็บไซต์เองที่นำระบบนี้มาใช้งาน ระบบวิกิที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ วิกิพีเดีย

วิกิจะแตกต่างจากระบบการจัดการเนื้อหาอื่นในส่วนของการโต้ตอบ ซึ่งเห็นได้จากระบบของกระดานสนทนาออนไลน์หรือบล็อก ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้อื่นโต้ตอบโดยการส่งข้อความต่อท้าย และไม่สามารถมีส่วนร่วมในส่วนของเนื้อหาหลักได้

ประวัติของวิกิ วิกิตัวแรกชื่อว่า WikiWikiWeb สร้างโดย วอร์ด คันนิงแฮม เมื่อพ.ศ. 2537 สำหรับโครงการ Portland Pattern Repository โดยได้มีการเขียนโปรแกรมขึ้นด้วยภาษาเพิร์ลและติดตั้งลงที่เว็บ c2.com โดยชื่อของ วิกิ นั้นมาจากชื่อรถประจำทางสาย "วิกิ วิกิ" (Wiki Wiki) ของระบบรถขนส่งแชนซ์ RT-52 ที่สนามบินฮอโนลูลูในรัฐฮาวาย คำว่าวิกิในภาษาฮาวายมีความหมายว่าเร็ว ดังนั้นคำว่า "วิกิวิกิ" หมายถึง "เร็วเร็ว" นั่นเอง

วิกิเน้นการทำงานแบบง่าย ซึ่งผู้เขียนสามารถสร้างเนื้อหาบนเว็บได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในภาษา HTML โดยข้อมูลถูกเขียนร่วมกันด้วยภาษามาร์กอัปอย่างง่ายโดยผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ในแต่ละหน้าจะถูกเรียกว่า "หน้าวิกิ" และเนื้อหาภายในจะเชื่อมต่อกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ซึ่งส่งผลให้ในแต่ละวิกิสามารถทำงานผ่านระบบที่เรียบง่ายและสามารถใช้เป็นฐานข้อมูล สำหรับสืบค้นดูแลรักษาที่ง่าย

3.3 Social networking (เครือข่ายสังคมออนไลน์)

เครือข่ายสังคมออนไลน์นี้ เป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีและ WEB 2.0 ทำให้เราได้แสดงออกถึงตัวตนและโชว์ของดีที่มีอยู่ในรูปแบบชุมชนเสมือน (Virtual Communities) เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ในการสร้างเครือข่ายสังคมสำหรับผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ต เขียน อธิบายความสนใจและกิจกรรมที่ได้ทำ และนำไปเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น ในบริการเครือข่ายสังคมมักจะประกอบไปด้วย การแช็ต ส่งข้อความ ส่งอีเมล วิดีโอ เพลง อัปโหลดรูป บล็อก บริการเครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมได้แก่ ไฮไฟฟ์ มายสเปซ เฟซบุ๊ก ออร์กัต มัลติพลาย เป็นต้น
3 ยักษ์ใหญ่ของวงการ Social networking website เริ่มด้วย MySpace ซึ่งเป็นผู้นำยอดสมาชิกรวมสูงสุด นับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของบริการ Hotmail.com ส่วน Facebook แชมป์อันดับหนึ่งในสหรัฐฯ ที่เริ่มจากการให้บริการกับนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามาก่อนที่ จะขยายกลุ่มลูกค้ากว้างขวางทั่วโลก

รูปแบบของเว็บ Social networking ทั้งหลายนั้น หลักๆก็จะมี Profile อัน เป็นที่นำเสนอตัวตนของเจ้าตัว พร้อมการเขียนบันทึกเล่าเรื่องราว บางคนเขียนเก่งขนาดว่ามีแฟนคลับติดตามก็มีไม่น้อย การสร้างสรรค์ในตกแต่ง Theme ของหน้าเว็บตน หลากลูกเล่นกับ Widget และการช่วยให้มีเพื่อนใหม่ไม่หยุดนิ่ง
ด้านความเป็นส่วนตัวที่มีผู้แสดงความกังวล  ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวได้ ว่าจะให้สิทธิใครเห็นการอัพเดตของเรา ในหน้าไหน อย่างไร ทำได้หมด สนใจอยากได้ใครเป็นเพื่อน ก็เพียงส่งคำเชิญไปให้อีกฝ่ายยอมรับเราเข้าเป็นเพื่อน หรือใครส่งคำเชิญมา แล้วอยากคบหาก็คลิ้ก ยอมรับ “Add” เข้าเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง ระบบนี้จะช่วยทำการหาเพื่อนให้ โดยการเชิญผ่านอีเมลล์จากลิสต์รายชื่อในเมลล์ผู้ใช้บริการ และเมื่อเพื่อนของผู้ใช้บริการมีเพื่อนระบบก็จะช่วยเชื่อมโยงเพื่อนเหล่า นั้นเข้าหากันอีกที เราสามารถรู้จักคนคนหนึ่งโดยผ่านการเชื่อมโยงจากคนที่เรารู้จักไปเรื่อยๆสำหรับ Social Networking Websites ที่น่าสนใจในประเทศไทยมี 2 เว็บท่า (portal website) ได้แก่ sanook.com ที่เปิด greetgang และ planet.kapook.com ของ kapook.com รายหลังถือว่าเข้าที่เข้าทางกว่าเว็บแรกอยู่พอตัว ตามมาด้วยน้องใหม่อย่าง MyFri3nd.com ที่ลูกเล่นหลากหลายน่าใช้กว่าเพื่อนเพราะ รวมจุดเด่น ลบจุดด้อยจากเว็บต่างๆ

3.4 Second Life

เป็นซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Linden Lab มีผู้ก่อตั้งเป็นอดีตหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท Real Network ยักษ์ใหญ่ในในวงการด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย Second Life ได้แรงบันดาลใจมา จากนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังอย่าง Cyberpunk และ Snow Crash "จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าโลกและชีวิต ถูกเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด?" นักพัฒนาโปรแกรมหลายคนยกย่องว่าเป็นนวัตกรรมของอนาคตหรือสิ่งประดิษฐ์ในยุคหน้า นักธุรกิจและนักการตลาดจำนวนมากมองว่าในอนาคตอันใกล้ มันเป็นทางเลือกของการลงทุนและ สื่อโต้ตอบที่ทรงพลังที่สุด

Second Life เป็นโปรแกรมโลกจำลอง 3 มิติซึ่งทุกคนสามารถสมัครเข้าร่วมได้ ขอเพียงมีคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต หลังจากสมัครผ่านเข้าไป คุณจะได้ควบคุม "Avatar" หรือตัวละครหนึ่งตน โดยสามารถ ใช้ avatar ของคุณท่องเที่ยวไปยังโลกของ Second Life พบปะเพื่อนฝูง ชอปปิ้ง เที่ยวเล่นเกมหรือทำกิจกรรมต่างๆ ถ้าอยากจะลงหลักปักฐาน ก็หาซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านหรือเปิดร้านค้าขายสินค้าให้ avatar ตนอื่นๆได้

แก่นแท้ที่ทำให้ Second Life โดดเด่นแตกต่างจากโปรแกรมอินเทอร์เน็ตทั่วไปก็คือ
ทุกอย่างในโลก Second Life ถูกสร้างจากน้ำมือของผู้เล่นทั้งสิ้น ทั้งตึกอาคาร, ถนน, รถยนต์, ยานอวกาศ, เสาไฟฟ้า, ตู้เย็น, ถังขยะ, เสื้อหนาว, รองเท้าส้นสูง  ช้อน/ส้อม หรือกระทั่ง "มด" ที่เห็นเดินอยู่ตามพื้นดิน

ทุกๆวันใน Second Life มีกิจกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นและดำเนินต่อเนื่องไปไม่รู้จักหมดสิ้น เขาว่ากันว่า "ทุกๆวันที่ login เข้าไป Second Life จะไม่มีวันเหมือนเดิม" ดังนั้นลองคิดดูว่า จะมีกิจกรรมมากมายขนาดไหน ...เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น จะขอยกตัวอย่างกิจกรรมที่เกิดขึ้นใน Second Life เพื่อให้ผู้ที่อาจจะยังไม่สัมผัสด้วยตัวเองเข้าใจว่าข้างใน Second Life เขาทำอะไรกันบ้าง?

Fashion  ทุกคนที่เล่น Second Life จะได้บังคับ avatar คนละหนึ่งตน ดังนั้นการแต่งตัว avatar ให้ดูดี เข้ากับรสนิยม อารมณ์ของเจ้าของ จึงเป็นเหมือนกิจกรรมพื้นฐานอย่างหนึ่งที่นี่ ทุกๆที่ๆคุณไป คุณจะได้พบ avatar หลายหลายรูปแบบ ตั้งแต่ หนุ่มหล่อ, นางแบบไฮโซ, นางฟ้า(ที่มีปีกจริงๆ), หุ่นยนต์, มังกร, สัตว์ประหลาด ฯลฯ

Traveling ใน Second Life การท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของคนที่ชอบค้นหาอะไรแปลกๆใหม่ คุณสามารถเดินทางใน Second Life ได้ด้วยการเดิน บิน หรือ วาปก็ได้ ข้างในมีสถานที่มหัศจรรย์รอคุณอยู่มากมายเช่น เมืองของ Harry Potter ที่เต็มไปด้วยเหล่าพ่อมด, สถานีอวกาศที่จำลองจากหนัง Starwars หรือแฟนการ์ตูนนารูโตะน่าจะลองไปเที่ยวเมืองโคโนโฮะดูก็ได้

E-Learning  ที่นี่เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง มี Course ต่างๆให้คุณได้เรียนรู้ทั้งด้านศาสตร์ความรู้ หรือกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมไปถึงการศึกษาแบบเต็มรูปแบบซึ่งหาได้จาก เช่น มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เปิดสาขาขึ้นใน Second Life รวมไปถึงการประยุกต์ใช้งานด้านการแพทย์เพื่อเป็นสื่อถ่ายทอดความรู้หรือกระทั่งเป็นเครื่องมือเยี่ยวยาผู้ป่วยโดยตรง ก็มีคนทำมาแล้วทั้งสิ้น

Conference มีหลายบริษัทระดับโลกที่มาจัดประชุม สัมมนา ต่างๆใน Second Life โดยบริษัทเหล่านั้นเล็งเห็นว่า Second Life สามารถลดค่าใช้จ่ายได้มาก สะดวก และรองรับผู้คนจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น บริษัท Microsoft ก็มีเกาะเพื่อไว้สำหรับชุมชนผู้ใช้งาน Virtual Studio หรือ Sun ก็มีเกาะชุมชนสำหรับคนใช้งานโปรแกรม Java

4  File sharing tools

กลุ่มนี้เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่ช่วยในการแบ่งปันไฟล์ต่างๆ ของผู้ใช้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ขยายช่องทางในการส่งข้อมูล การแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันทำให้เกิดความประหยัดค่าใช้จ่าย เวลาและทรัพยากร ซึ่งในกลุ่มนี้มี 5 เรื่อง ดังนี้                Photo sharing  แนะนำเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ให้บริการแบ่งปันไฟล์รูปภาพ ภาพถ่ายต่างๆ                Video sharing  แนะนำเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ให้บริการแบ่งปันไฟล์วิดีโอ รวมถึงสตรีมมิ่งวิดีโอ                Music sharing แนะนำเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ให้บริการแบ่งปันไฟล์เพลง ไฟล์เสียง รวมถึงเครื่องเล่นเพลงออนไลน์                Document sharing แนะนำเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ให้บริการแบ่งปันไฟล์เอกสารออนไลน์ รวมถึงสร้างและดัดแปลงเอกสาร                File Sharing  แนะนำเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ให้บริการพื้นที่สำหรับฝากไฟล์เก็บเอาไว้ส่งต่อและเผยแพร่  

4.1 SlideShare   

เป็นเว็บไซต์รับฝากไฟล์พรีเซนเทชันออนไลน์ เช่นเดียวกับ Youtube ที่ฝากไฟล์วิดีโอ หรือ flickr ที่ฝากไฟล์รูปภาพ มีพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 100 mb ไฟล์ต่างๆ นั้นสามารถนำไปฝังไว้ในเว็บไซท์หรือบล็อกได้เช่นเดียวกับ YouTube โดยไม่ต้องกังวลว่าเราจะมีโปรแกรมที่ใช้เปิดไฟล์เหล่านั้นหรือไม่ สามารถดาวน์โหลดไฟล์มาเก็บไว้ได้ นอกจากนี้เจ้าของผลงานยังสามารถควบคุมได้ว่าจะอนุญาตให้ใครมาดาวน์โหลดได้ บ้างได้ด้วย

4.2 Google Docs ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นเว็บไซต์แบ่งปันไฟล์เอกสารมากนัก เพราะหน้าที่หลักของมันจริงๆ แล้วคือการสร้างเอกสารออนไลน์โดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ใดๆ มากกว่า ผู้ใช้แค่เปิดเว็บและพิมพ์เอกสารบนเบราว์เซอร์ได้เลย ซึ่งเอกสารที่สร้างได้นั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบทั้ง Document, Spreadsheet, Slide หรือ Form โดยเฉพาะ Form นั้นจะเชื่อมข้อมูลที่กรอกเข้ากับ Spreadsheet โดยทันที ทำให้เก็บแบบสอบถามออนไลน์และแปรผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังสามารถสรุปผล Form คร่าวๆ ได้ทันทีอีกด้วย


เอกสารที่สร้างขึ้นโดย Google Docs ผู้ใช้สามารถส่งออกได้หลายรูปแบบที่สนับสนุนทั้ง Microsoft Office, OpenOffice หรือ PDF ไฟล์ก็ยังได้ รวมถึงสามารถนำเข้าไฟล์จากโปรแกรมเหล่านั้นมาแก้ไขได้อีกด้วย ผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ผู้ใดสามารถเข้ามาดูเอกสารของตนเองได้ สามารถให้ใครเข้ามาแก้เอกสารของตนได้

แหล่งข้อมูล

http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/bm521/kurokung_2/kurokung-web2/index.html